วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556


สรุปโทรทัศน์ครู

เรื่อ   เสียง และการได้ยิน
ครูปิยะพร ศรีพลาวงษ์ รร.วัดบ้านแหลม

            เสียงเป็นส่วนหนึ่งที่คนใช้ในชีวิตประจำวัน มนุษย์รู้จัก และคุ้นเคยกับเสียงอันมีเสียงจากธรรมชาติ เช่น เสียงลม เสียงฟ้าผ่า เสียงฟ้าร้อง ฯลฯ เสียงที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นมาใช้ เช่นเสียงจากยานพาหนะ เครื่องจักรกล เสียงดนตรี ฯลฯ มนุษย์รู้จักนำพลังงานเสียงมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน อย่างหลากหลายวิธี พลังงานเสียงจึงมีประโยชน์มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เป็นการประยุกต์ใช้และสร้างองค์ความรู้ให้นักเรียนเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และสร้างคุณลักษณะที่พึงประสงค์ให้เกิดในนักเรียน

            การสอนของครูปิยะพร เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่ฝึกให้นักเรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ดีมาก มีการสอนสอนให้นักเรียนได้ฝึกการคิดการตั้งปัญหา การใช้เหตุผล นักเรียนฝึกตอบคำถามโดยใช้เหตุและผล มีการนำสิ่งใกล้ตัวเช่น การแสดงอารมณ์ของคนรอบข้างมาใช้ในการเรียนการสอน มีการสอนที่หลากหลาย ในการทดลองครูต้องติดตามในการทดลอง เพราะนักเรียนยังมีประสบการณ์น้อยโดยครูต้องตรวจดูว่านักเรียนทำการทดลองถูกต้องไหม ฝึกให้นักเรียนแก้ปัญหาในการทดลอง รู้จักรู้จักคิดและแสวงหาความรู้และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันเช่นประดิษฐ์เครื่องดนตรีอย่างง่ายเป็นประโยชน์ดีมากค่ะ

วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สรุปงานวิจัย
ชื่องานวิจัย     ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ

ปริญญานิพนธ์
ของ
ชนกพร  ธีระกุล

            การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยเชิงทดลอง  ซึ่งมุ่งศึกษาเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ และแบบปกติ ซึ่งสรุปขั้นตอนการศึกษาตามลำดับ ดังนี้
จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
            เพื่อเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการและแบบปกติ
สมมติฐานในการศึกษาค้นคว้า
            เด็กปฐมวัยที่รับการจัดกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ และที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบปกติ  มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แตกต่างกัน
ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
     การศึกษาครั้งนี้  มีขอบเขตการศึกษา ดังนี้
            1.ประชากร   ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ เด็กนักเรียนชาย-หญิง  อายุ 3 ปี  ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 1 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2540  จำนวน 3 ห้องเรียน  ห้องเรียนละ 30 คน  ของโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่  เขตพระโขนง  กรุงเทพมหานคร  สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน
           
            2.กลุ่มตัวอย่าง    กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ เด็กนักเรียนชาย-หญิง  อายุ 3 ปี  ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 1 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2540  โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่  เขตพระโขนง  กรุงเทพมหานคร  สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน   จำนวน 1 ห้องเรียน  มีจำนวนทั้งสิ้น 30 คน  ซึ่งได้มาโดยมีการสุ่มอย่างง่าย(Simple  Random  Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า
            การศึกษาค้นคว้านี้มีเครื่องมือในการศึกษาครั้งนี้
1.แผนการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์  ซึ้งผู้วิจัยสร้างขึ้นประกอบไปด้วยชื่อกิจกรรม  จุดประสงค์  ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม  ชื่อวัสดุอุปกรณ์  และประเมินผล  โดยแผนการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบ่งเป็น 2 แบบ  ได้แก่
            1.1.แผนการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ  ซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้นจำนวน  40 แผน
            1.2.แผนการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบปกติ  ซึ่งใช้ตามแผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาลที่ เล่ม1  ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน พ..2539  โดยผู้วิจัยได้คัดเลือกกิจกรรมให้สอดคล้องกับกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ  จำนวน 40 แผน
2.แบบทดสอบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ผู้วิจัยสร้างขึ้น  เป็นแบบทดสอบที่ใช้คำถามที่เป็นรูปภาพชนิด 3 ตัวเลือก  และแบบทดสอบภาคปฏิบัติรวมทั้งสิ้นจำนวน 6 ชุด  ดังนี้
            2.1.แบบทดสอบที่เป็นรูปภาพมี 5 ฉบับ  คือ
                  2.1.1.แบบทดสอบวัดทักษะการสังเกต  จำนวน 8 ข้อ
                  2.1.2.แบบทดสอบวัดทักษะการจำแนก  จำนวน 8 ข้อ
                   2.1.3.แบบทดสอบวัดทักษะการแสดงปริมาณ  จำนวน 8 ข้อ
                   2.1.4.แบบทดสอบวัดทักษะการลงความคิดเห็น  จำนวน 5 ข้อ
                   2.1.5.แบบทดสอบวัดทักษะการหามิติสัมพันธ์  จำนวน 8 ข้อ
            2.2.แบบทดสอบภาคปฏิบัติมี 2 ฉบับ  คือ
                   2.2.1 แบบทดสอบวัดทักษะการสื่อความหมาย  จำนวน 8 ข้อ
                   2.2.2 แบบทดสอบวัดทักษะการลงความเห็น  จำนวน 5 ข้อ
            จากนั้นทำแบบทดสอบ  ซึ่งผ่านการตรวจแก้ไขจากผู้เชี่ยวชาญ  และผ่านกระบวนการวิเคราะห์หาคุณภาพด้านความยากง่าย(p)  ได้ค่าระหว่าง  .40 - .80  ค่าอำนาจจำแนก(D)  ตั่งแต่  .25  ขึ้นไป  และหาค่าความเชื่อมั่น  โดใช้วิธีของคูเดอร์-ริชาร์ดสัน(Kuder-Richardson) ที่คำนวณจากสูตร  KR-20  ได้ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ  .90
สรุปผลการศึกษาค้นคว้า

            เด็กปฐมวัยที่ได้รับ  การจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการและเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจารจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบปกติ  มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์  แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  .01  ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐาน  และเมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของคะแนนทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของกลุ่มตัวอย่าง  พบว่า  กลุ่มทดลองที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ มีค่าเฉลี่  39.733  สำหรับกลุ่มควบคุมที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบปกติ  มีค่าคะแนนเฉลี่ย  31.066

วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

สัปดาห์ที่ 19
วันที่ 30 กันยายน 2556
เรียน วิชา การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
กิจกรรมการเรียนการสอน

            - อาจารย์ได้พูดคุย เรื่อง  Blog ว่ามีความคืบหน้าไปมากแค่ไหน  มีการปรับปรุง  เพิ่มเติม  มากน้อยแค่ไหน  นักศึกษาแต่ละคนขาดอะไรบ้าง(รายบุคคล)
           - อาจารย์ทบทวนแนวคิดทางคณิตศาสตร์ คือ การเปลี่ยนแปลง  การพึ่งพาอาศัย  ความสมดุล  การปรับตัว
          - อาจารย์ให้ส่งสื่อการประดิษฐ์ของเล่นวิทยาศาสตร์(เดี่ยว) และ สื่อเข้ามุมวิทยาศาสตร์(กลุ่ม)

ภาพการส่งสื่อของเล่นและสื่อเข้ามุมวิทยาศาสตร์





ภาพดิฉันส่งงาน


ความรู้ที่ได้รับ
          สามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนในอนาคตต่อไปได้และยังสามารถนำไปใช้กับเด็กและให้เด็กปฏิบัติโดยการให้เด็กได้ลงมือกระทำเองโดยมี ครู หรือ ผู้ปกครอง  คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ห่างๆได้




วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556

สัปดาห์ที่ 18
วันที่ 23 กันยายน 2556
เรียน วิชา การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
กิจกรรมการเรียนการสอน

เพื่อนๆลงมือปฏิบัติการทำ  Cooking  แกงจืด

สรุป      ความรู้ที่ได้รับ

-                  ได้ฝึกให้เด็กได้รู้จักการสังเกตขั้นตอนการทำของแต่ละขั้นตอน
-                 ได้สังเกตวัตถุดิบก่อนทำและหลังทำ ว่าเป็นอย่างไร
-                  ได้รู้จักคุณค่าของวัตถุแต่และชิ้น




วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

วันที่ 17 กันยายน 2556


ทำสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์เพิ่มเติมจาก 1 ชิ้น เพิ่มเป็น 8 ชิ้น
 ตามที่ อาจารย์แนะนำ






วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556

สัปดาห์ที่ 17
วันที่ 16 กันยายน 2556
เรียน วิชา การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
กิจกรรมการเรียนการสอน
-อาจารย์ให้แบ่งกลุ่มงานCooking   4 แผ่น
-กลุ่มของดิฉันทำ เรื่อง ข้าวผัด
     แผ่นที่ 1  คือ  การทำ My  Mapping เมนูอาหารต่างๆ แล้วเลือกมา 1 เมนู
     แผ่นที่ 2  คือ  อุปกรณ์และเครื่องปรุงอาหาร
     แผ่นที่ 3  คือ  ขั้นตอนการทำและวิธีการปรุงอาหาร
     แผ่นที่ 4  คือ   สิ่งที่เด็กได้รับจากการประกอบอาหาร





              จากนั้น  ทำเสร็จ  อาจารย์ให้ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนทุกกลุ่ม มีดังนี้
1.ราดหน้า    2.ต้มจืด   3.ไข่เจียวทรงเครื่อง   4.ไข่ผะโล้   5.ข้าวผัด   6.ผัดผักรวมมิตร



-อาจารย์ให้เพื่อนๆโหวตว่าจะเอาของกลุ่มไหนที่จะปฏิบัตรจริง
            เพื่อนๆเลือก กลุ่มที่นำเสนอ  ต้มจืด

สัปดาห์หน้า   อาจารย์ให้กลุ่มที่ได้ทำ Cooking เตรียม อุปกรณ์ มาทำจริงกับเพื่อนๆ

วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

สัปดาห์ที่ 16
วันที่ 15 กันยายน 2556
เรียน วิชา การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
กิจกรรมการเรียนการสอน
เรียนชดเชย
-อาจารย์แจ้งรายละเอียดว่า วันที่16 ..2556 อาจารย์ตฤณ  จะมาสอนในเรื่องการทำแผนแล้วเข้าสู่การทำ  Cooking
-อาจารย์แจ้งว่า Blog จะต้องทำให้เสร็จ 
          งานวิจัยจะต้องอ่าน 1 เรื่อง  แล้ว สรุป ด้วย
          โทรทัศน์ครูต้องอ่าน 1 เรื่อง  แล้ว สรุป ด้วย
-อาจารย์แจ้งว่า  อาจารย์จะจัดนิทรรศการสื่อวิทยาศาสตร์เข้ามุม
-นำเสนอสื่อเข้ามุมวิทยาศาสตร์  คือ  1.ภาพสามมิติ  2.นิทานเคลื่อนที่(แม่เหล็ก)  3.กล่องสเปกตัม  4.รถลงหลุม  5.หัวห้อยโหน  6.เวทีซูโม่กระดาษ 
-นำเสนอสื่อการทดลองวิทยาศาสตร์   คือ การักน้ำ
-นำเสนอสื่อของเล่นวิทยาศาสตร์  คือ 1.กระป๋องผิวปาก  2.กระดาษร้องเพลง  3.ตุ๊กตาล้มลุก  4.มุมเมอแรง
ภาพกิจกรรมการนำเสนอสื่อเข้ามุม  ของเล่น  การทดลองวิทยาศาสตร์  


นำเสนอสื่อของเล่นวิทยาศาสตร์ของตนเอง   กระป๋องผิวปาก

** หมายเหตุ  อาจารย์ให้ทำสิ่งประดิษฐ์เพิ่มเป็น 8 ชิ้น

สื่อของเล่นวิทยาศาสตร์ของดิฉัน คือ กระป๋องผิวปาก

กระป๋องผิวปาก
หลักการใช้
     -เป่าลมผ่านหลอดกาแฟแล้วลมที่เราเป่านั้นจะตกผ่านเข้าสู่ปากกระป๋อง
     -ลมที่เราเป่าออกมานั้น จะมีแรงดันสูง เมื่อตกกระทบกับปากกระป๋อง
     -จึงทำให้เกิดเสียง

อุปกรณ์

     1.กระป๋องน้ำอัดลมจำนวน 1 กระป๋อง
     2.หลอดดูดกาแฟ 1 อัน
     3.กระดาษลัง
     4.กระดาษสีอ่อน
     5.เทปใส/กาวสองหน้า
     6.กรรไกร
     7.ปากกาดำ
     8.ไม้บรรทัด

วิธีการทำ

1.นำกระดาษลังมาตัดให้เป็นวงกลมให้พอดีกับก้นกระป๋อง จากนั้น นำไปแปะที่ก้นกระป๋อง

2.นำกระดาษสีมาแปะให้รอบตัวกระป๋อง

3.ตกแต่งให้สวยงาม

4.นำหลอดมาแปะที่ปากของกระป๋อง


5.จากนั้น  เสร็จเรียบร้อย


ประโยชน์
     1.เด็กสามารถทำได้เองโดยมีครู หรือ ผู้ปกครองคอยดูแล
     2.เด็กได้ผ่อนคลายความตึงเครียด
       3.เด็กสนุกสนาน เพลิดเพลิน กับเสียง ที่ได้ยิน

วิธีการใช้
     เป่าไปที่หลอดแล้วจะมีเสียงเกิดขึ้น

วิธีการเก็บรักษา
     1.เก็บสื่อเข้าที่ ให้เป็นระเบียบ
     2.ตรวจสอบสื่อทุกครั้งหลังเล่นเสร็จ
     3.ซ่อมแซมส่วนที่ชำรุด